MARKBAM RAPPER # 25






มือร้อนปัดป่ายลงต่ำพร้อมกับน้ำที่ค่อยๆลดจากการถูกปล่อยทิ้งจนเหลือแค่ครึ่งอ่าง ทิ้งน้ำหนักมือลูบไล้ไปตามเอวเล็กที่บางเสียจนสองมือของเขาเกือบจะโอบรอบมิด ตอนที่มาร์คผละออกมาจากอกแบมแบมก็เป็นฝ่ายจับประคองใบหน้าคมให้เงยขึ้นมารับจูบร้อนๆจากตัวเอง แล้วมันก็เหมือนเคยที่มาร์คตามใจคนอยากลองให้เป็นผู้นำดูบ้างปล่อยคนตัวเล็กบนร่างเป็นฝ่ายคุมเกม


ริมฝีปากฉ่ำร้อนที่ยิ่งจูบก็ยิ่งทวีความเซ็กซี่จนมาร์คเผลอไล้นิ้วขึ้นไปขยี้เบาๆด้วยความหลงใหล ใจของคนที่ปกติก็ต่อต้านร่างบอบบางตรงหน้าไม่ได้อยู่แล้วยิ่งสั่นไหวหนักขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ๆลูกแมวตัวน้อยที่เอาแต่เขินอายก็กลายร่างเป็นแมวยั่วสวาทเผยอปากกดจูบบนนิ้วโป้งของเขาก่อนจะส่งลิ้นร้อนออกมาแตะโดยที่ไม่ละสายตาที่เชื่อมกันไว้เลย


สุดท้ายก็เป็นมาร์คที่ทนไม่ไหวอีกจนได้ ดึงแมวขี้ยั่วลงมาประกบจูบลงไปให้หนักกว่าเดิมและครั้งนี้มือเล็กก็ไม่อยู่เฉยอีกต่อไป อารมณ์ที่พุ่งจนเกือบสุดเพดานผลักดันให้มือเล็กค่อยๆปัดป่ายไปทั่วแผ่นอกหนา กดนิ้วลงบนกล้ามเนื้อกำยำที่ตัวเองทั้งหลงใหลทั้งอิจฉา พอผละออกจากจูบได้ก็เป็นฝ่ายลองไต่จุมพิตร้อนไปที่อื่นดูบ้าง จูบหนักๆลงบนเส้นเลือดปูดโปนบนลำคอหนาไล่ต่ำลงมาหยอกล้อกับร่างกายของมาร์คอย่างที่อีกฝ่ายเคยทำกับตัวเขา


เสียงครางต่ำในลำคอของคนใต้ร่างเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ผลักดันเปลวไฟที่ชื่อแบมแบมให้ทวีความร้อนมากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายเล็กค่อยๆขยับถอยหลังทุกครั้งที่กดริมฝีปากลงต่ำจนถึงขอบบ็อกเซอร์ใต้ระนาบผิวน้ำ วาบหวิวจนแข้งขาเกือบอ่อนแรงยามที่บางอย่างที่กำลังขยับขยายครูดไปตามเรียวขาของอีกฝ่าย เผลอกระตุกวูบตอนที่ฝ่ามือหยาบแตะผ่านลงมาบนเนื้อผ้ากลางลำตัว นวดเบาๆจนใจคนถูกกระทำแทบทนไม่ไหวก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างดึงให้แบมแบมขยับขึ้นมาตอนที่ใบหน้าหวานจูบลงต่ำจนเกือบจะจมหายลงไปใต้น้ำ


“เดี๋ยวก็สำลักหรอก” พูดยิ้มๆพลางปาดหยดน้ำบนแก้มและจมูกออกให้
“อย่าล้อนะ” แบมแบมพูดออกมาพลางเบือนหน้าหนี





รอยแดงที่ลากยาวจากแก้มไปถึงหูทำให้มาร์ครู้ว่าสุดท้ายแล้วลูกแมวก็คือลูกแมวอยู่ดีนั่นแหละ ถึงจะพยายามทำใจกล้าหรืออารมณ์พาไปแค่ไหนแบมแบมก็ยังเป็นเด็กน้อยคนเดิมของเขาอยู่ดี

มือหนาเริ่มต้นออกแรงเคล้าคลึงส่วนร้อนฉ่าของคนตัวเล็กอีกครั้ง เสียงหอบหายใจที่สะดุดเป็นบางช่วงยิ่งปลุกอารมณ์ดิบของชายหนุ่มขึ้นมา จนสุดท้ายปราการตัวบางก็ถูกร่นต่ำลงจนปกปิดอะไรไม่ได้ ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกสายตาคมกวาดมองไปทั่วตัวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแบมแบมจะชิน คราวก่อนยังมีความมืดเป็นตัวลดความอายแต่ครั้งนี้นอกจากแสงไฟจะสว่างจ้าแล้วเขายังอยู่ในตำแหน่งน่าอายเหนือร่างของอีกฝ่ายอีกต่างหาก




“เอาจริงดิ” ถามออกมาทั้งที่ใบหน้ายังคลอเคลียแก้มใสไม่ห่าง เรียวปากหยักยกยิ้มถูกใจไม่คิดว่าแบมแบมจะกล้า กดจมูกสูดเอาความหอมเข้าปอดไปเต็มรัก
“เงียบไปเลย”


น้ำเสียงที่ดุออกไปฟังดูเหมือนคนงอนมากกว่าจะไม่พอใจ ที่มาร์คถามออกมาอย่างนั้นก็เพื่อย้ำความมั่นใจของแบมแบมเพราะในตอนนี้มือเล็กกำลังทำแบบเดียวกันกับเขาราวกับเป็นเด็กน้อยที่คอยลอกเลียนการกระทำของผู้ใหญ่


แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่กล้าพอจะดึงร่นขอบกางเกงลงมาแบบที่มาร์คทำหรอก แค่สัมผัสถึงความแข็งขืนที่ขยายตัวจนคับฝ่ามือก็ร้อนหน้าจนทำตัวไม่ถูกแล้ว มาร์คเลยเพิ่มความกล้าให้เองด้วยการดันตัวแบมแบมให้ลุกแล้วเลื่อนสิ่งปกปิดหน้าตักตัวเองลง แบมแบมไม่กล้าแม้แต่จะทิ้งสายตาลงมามองอะไรที่มันปัดป่ายโดนกันด้วยซ้ำ


มือหนาจับมือเล็กให้แตะต้องลงบนผิวเนื้อไร้สิ่งปกปิดของเขาเป็นครั้งแรก แก้มแดงร้อนผะผ่าวจนหายใจผิดจังหวะ เสียงหอบเบาๆดังมาไม่ขาดตอนที่มาร์คเร่งเร้ามือทั้งสองข้างให้ขยับไปพร้อมๆกัน ไม่นานความเขินอายก็ถูกอารมณ์ที่เตลิดจนสุดเป่าหายไปไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น


เสียงหวานหลุดออกมาอย่างน่าอายเมื่อกักเก็บความหวามไหวต่อไปอีกไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนที่แตะวนรอบปลายทางสีหวานกำลังทำให้สติหลุด แบมแบมไม่รู้แล้วก็ไม่สนด้วยว่าหลังจากทั้งหมดนี่จบลงจะโดนมาร์คล้อว่ายังไง แต่ตอนนี้สิ่งที่อยากได้คืออะไรที่มันมากกว่านี้

“ม.. มาร์ค”
“หืม? ทำไมครับ” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร จูบขมับคนที่ตอนนี้กอดเขาแน่นและเริ่มสั่นเบาๆเพราะความวาบหวิว


“ทำไม.. อื้อ ชอบแกล้งนักหะ”
“ก็อยากน่ารักทำไมล่ะ”



“แล้วตกลงว่าเรียกพี่ทำไม อยากได้อะไรเหรอครับ”
“งื้อ.. รู้อยู่แล้วยังจะถาม” ทำหน้ามุ่ยใส่ทุบมือเบาๆลงที่ไหล่ เวลาอย่างนี้ยังจะมากวนกันอีก มาร์คหัวเราะฮึๆขยับเขามากระซิบชิดติดใบหู เสียงทุ้มต่ำที่บอกชัดว่าจริงๆแล้วก็อยู่ในอารมณ์ไม่ต่างกันทำเอาแบมแบมใจสั่น



“จูบก่อน”

แล้วริมฝีปากนุ่มก็ประกบจูบร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยทำ กอดคนใต้ร่างที่ใช้วงแขนข้างหนึ่งประคองเอวส่วนอีกข้างก็ค่อยๆกดนิ้วเรียวแทรกสอดเข้ามาสนองความต้องการอย่างที่คนตัวเล็กเรียกร้อง




ความเจ็บปวดในคราแรกแทบจะทำให้แบมแบมกรีดร้อง ตวัดมือโอบรอบคอมาร์คแน่นกว่าเก่า คนใต้ร่างเองก็พอจะเข้าใจถึงได้พยายามทะนุถนอมแบมแบมมาโดยตลอด ถึงจะมือไวชอบหาเรื่องตอดเล็กตอดน้อยอยู่บ่อยๆแต่เอาเข้าจริงมาร์คก็ไม่เคยทำอะไรที่มันถลำลึกไปมากกว่าจูบเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งก็จะหยุดตัวเองก่อนที่ความรู้สึกมันจะเตลิดไปจนกู่ไม่กลับเพราะเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายที่ต้องเจ็บตัว ตราบใดที่แบมแบมไม่พร้อมเขาก็ไม่อยากจะเร่งรัด

สำหรับมาร์คที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีที่สุดแล้ว ได้นอนหลับไปพร้อมกัน ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าอีกฝ่ายในตอนเช้า ใช้ชีวิตธรรมดาเรียบง่ายไม่ต้องหวือหวา เพราะเคยต้องห่างถึงได้เข้าใจว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้อยู่ด้วยกันทุกวันแบบนี้อีกแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ความเข้าใจเป็นตัวขับเคลื่อนความรักเซ็กส์ก็จะกลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย








เสียงอื้ออึงของความเจ็บค่อยๆเปลี่ยนเป็นหวานหูเมื่อร่างกายปรับรับกับแรงขยับที่ค่อยๆเพิ่มจำนวนได้แล้ว ปลายนิ้วร้อนครูดไปตามผนังนุ่มที่ร้อนยิ่งกว่า กดย้ำจุดไวสัมผัสกระตุ้นความต้องการจนร่างเล็กผวาตัวกอดแน่นบางครั้งก็เผลอตัวขยับเบาๆตอบรับกับสิ่งเร้า

“แน่ใจจริงๆนะ”
“มาถึงขนาดนี้แล้วนะ.. จะหยุด แฮ่ก.. เหรอไง” ตวัดหางเสียงด้วยความขุ่นใจเล็กน้อยที่มาร์คยังเอาแต่ถาม

“ที่ถามเพราะว่าพี่ขาเจ็บอยู่”
“...”

“เราต้องเป็นคน.. ขยับ”

พูดออกมาตรงๆขนาดนี้คนรับฟังที่เขินอายอยู่แล้วยิ่งซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงอู้อี้ออกมาแต่เรียกเสียงหัวเราะฮึเบาๆในลำคอจากคนถามได้

“ก.. ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”






มือหนาประคองเอวเล็กค่อยๆกดทับลงมาบนแก่นกายร้อน ระมัดระวังสุดตัวแม้ว่าอารมณ์จะเตลิดไปไกลแล้ว เสียงร้องที่ร่างเล็กพยายามฝืนไม่ให้มันเล็ดรอดออกมาทำให้มาร์คต้องผ่อนแรงลงช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันเป็นครั้งแรกและไม่มีตัวช่วยอื่นใดนอกจากน้ำเย็นๆที่คอยตัดอุณหภูมิความร้อนให้เบาลง


ดึงความสนใจจากร่างเล็กให้มาจดจ่ออยู่กับจูบหวานและแรงที่รูดรั้งด้านหน้า ปล่อยให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อนจะต้องรับมือกับลำดับขั้นต่อไป มาร์คไล่ริมฝีปากไปทั่วแก้มใสปัดปอยผมชื้นเหงื่อออกให้อย่างเบามือ กดจูบย้ำซ้ำๆที่ก้อนเยลลี่นิ่มอีกหลายครั้ง

“รู้ใช่ไหมว่าพี่รัก”

แค่สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้คงจะทำให้ใจสั่นไม่พอมาร์คถึงได้พูดออกมาโต้งๆแบบนี้ อยากจะคิดว่าอีกฝ่ายแกล้งทำให้เขินอยู่หรอกแต่พอแบมแบมสบเข้ากับดวงตาคมก็รู้ว่ามันไม่ใช่การแกล้งหยอกล้ออะไรทั้งนั้น แต่คำว่ารักที่เอ่ยออกมามันหมายความตามที่พูดจริงๆ

“แบมก็รักพี่มาร์ค”


กดจุมพิตตอบกลับไปบ้าง แล้วร่างเล็กที่รู้สึกว่าทนไม่ไหวอีกต่อไปก็เริ่มขยับโดยมีมือหนาเป็นฝ่ายชักนำ ประคองและสอนเอวเล็กในคราแรกก่อนจะปล่อยให้คนด้านบนคุมเกมเร่งเร้าและผ่อนแรงตามต้องการ ไม่นานนักความสุขสมแบบที่ไม่เคยสัมผัสก็เข้ามาแทนที่ความเจ็บจนมันละลายหายไปหมด




สายน้ำที่คลออยู่ด้านล่างไม่ได้ช่วยให้ความร้อนแรงลดลงเลย มิหนำซ้ำเสียงสะท้อนและแรงกระเพื่อมของน้ำยิ่งขลับให้แบมแบมเขินอายจนต้องหลับตาหนี คนที่บอกว่าเจ็บขาจนขยับไม่ไหวก็ดูเหมือนจะโกหกกันชัดๆเมื่อสุดท้ายแล้วอารมณ์ก็พาให้คนใต้ร่างขยับสะโพกสวนขึ้นมาหลายครั้ง มันก็จริงอยู่ที่มาร์คทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่ขาโดยตรงไม่ได้แต่เข่าและแขนของเขายังใช้การได้ดีและมันก็มีวิธีอื่นที่จะสามารถสลับมาเป็นผู้นำเกมได้โดยไม่ต้องใช้แรงจากข้อเท้า


เสียงครางหวานและเสียงหอบหายใจต่ำแทบจะดังก้องไปทั่วห้องน้ำกว้างและยิ่งดังขึ้นไปอีกยามที่บทรักปีนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แบมแบมโยนทิ้งความอายไปหมดสิ้นและตอบรับความต้องการ ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง มันเหมือนกับมาร์คพาไปยืนอยู่บนปากเหวที่สูงเกือบแตะขอบฟ้า ตอนที่ปลายทางสุดท้ายมาถึงก็เหมือนทั้งตัวกระตุกหล่นวูบลงไปใต้หน้าผา เปลือกตาบางปิดแน่นพร้อมกับในหัวที่ว่างเปล่า ก่อนจะรู้สึกตัวตอนที่อีกคนดึงให้หันกลับไปแล้วป้อนจูบมาให้





.
.
(ใครร่างแหลกไปแล้วกรุณาประกอบร่างแล้วกลับไปเป็นเด็กดีด้วยค่ะ ยังมีต่ออีกนิดนึง)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MARKBAM RAPPER #19